อีกหนึ่งคำถามสำหรับคนที่กำลังศึกษาเรื่องการช้อปปิ้งออนไลน์อยากรู้มากที่สุดเกี่ยวกับการซื้อสินค้าผ่านอินเตอร์เน็ตก็คือ “การช้อปปิ้งออนไลน์” นั้นมีความปลอดภัยจริงหรือไม่? ซึ่งในวันนี้ผมเองมีคำตอบเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวมาฝากทุกท่านครับ                การช้อปปิ้งออนไลน์นั้นก็เหมือนกับการซื้อขายสินค้าหรือการซื้อของทั่วๆ ไปนั่นแหละครับจะผิดแผกแตกต่างก็เพียงแค่เรื่องของความสะดวกและเรื่องการชำระเงินเท่านั้นดังนั้นผมจึงกล้าบอกครับว่าจะอันตรายไม่อันตรายจะปลอดภัยหรือไม่ปลอดภัยขึ้นอยู่กับตัวผู้ใช้งานเองเป็นหลัก                หากตัวเราเองเป็นคนที่ประมาทเลินเล่อแล้วล่ะก็ต่อให้มีการป้องกันที่เข้มงวดหรือดีแค่ไหนโอกาสที่ข้อมูลจะหลุดไปอยู่ในมือผู้ที่ไม่หวังดีก็เป็นไปได้ทั้งสิ้น                หากเราตัดเรื่องของความประมาทเลินเล่ออันเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดการหลุดรอดหรือรั่วไหลของข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลด้านการเงินออกไปแล้วก็ต้องบอกว่าการช้อปปิ้งออนไลน์ในปัจจุบันมีความปลอดภัยมากขึ้นครับอย่างน้อยก็ว่ากว่าแต่ก่อนหลายเท่าตัวเลยทีเดียว                กล่าวคือบรรดาเว็บไซต์ e-commerce หรือช้อปปิ้งออนไลน์ในปัจจุบันนั้นได้มีการติดตั้งระบบการรักษาความปลอดภัยด้านข้อมูลส่วนบุคคลรวมไปถึงข้อมูลด้านการเงินต่างๆ ของลูกค้า มีการติดตั้งระบบ SSL โดยสถาบันการเงินชั้นนำที่มีมาตรฐานเพื่อการชำระเงิน อีกทั้งตัวเว็บเองยังมีการเคลียร์ cache เคลียร์ cookies ทันทีทุกครั้งหลังจากที่เสร็จสิ้นการท่องเว็บดังนั้นเราจึงไม่ต้องกลัวว่าข้อมูลของเราจะโดนผู้ไม่หวังดีแอบฉกไปใช้งานในทางที่ผิดครับ

นับว่าปัจจุบันนั้นได้มีการนำยาสเตียรอยด์มาใช้ในเครื่องสำอางกันเป็นอย่างมาก เนื่องจากสเตียรอยด์นั้นมีคุณสมบัติลดการอักเสบของผิวหนัง ซึ่งส่วนใหญ่จะถูกนำมาใช้เป็นส่วนผสมในตัวยารักษาสิว ซึ่งจะต้องทำโดยแพทย์ที่เชี่ยวชาญด้านผิวหนังโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบของยาฉีดสิว ยาทานแก้สิว                 ซึ่งการใช้สเตียรอยด์ติดต่อกันนี้เองทำให้มีปัญหาผลข้างเคียงของยาตามมา โดยผลข้างเคียงของการใช้ยาสเตียรอยด์ จะทำให้เกิดอาการผิวหน้าบาง หลังการใช้ยาสเตียรอยด์ 2-4 สัปดาห์ฤทธิ์ยาจะทำให้ผิวหนังเกิดการบางตัวยาจะทำให้กระบวนการสร้างคอลลาเจนเสียไป ผลที่สังเกตได้คือ เกิดรอยแตก รอยแยกบนผิวหนัง หน้าแดงอยู่ตลอดเวลา เนื่องจากเส้นเลือดใต้ผิวหนังทำงานผิดปกติ จากนั้นผิวหนังจะมีสีจางลง ซึ่งหากใช้เป็นเวลานาน ๆ ติดต่อกัน จะทำให้เกิดเป็นด่างขาว หากฉีดสิวบ่อย ๆ จะทำให้เกิดรอยบุ๋ม ในกรณีที่ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีสารสเตียรอยด์ที่ไม่ได้มาจากแพทย์ จะยิ่งทำให้ผิวหน้าแย่ลงมากกว่าเดิม โดยจะเกิดสิวผด หากใช้ไปเรื่อย ๆ จะเกิดการติดสเตียรอยด์ และเมื่อหยุดใช้หน้าจะแดงขึ้นสิว ซ้ำยังทำให้ผิวหน้าบางลงอีกด้วยค่ะ                ดังนั้นควรที่จะเลือกซื้อผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางที่ปลอดสารสเตียรอยด์ เพื่อที่จะได้มีผิวหน้าที่ดีไปตลอด อย่าเห็นแค่ใช้แล้วขาวเร็วขาวไว เพราะนั่นจะทำให้ได้ผลลัพธ์ที่เลวร้ายมากกว่าที่คุณคิด เพราะเมื่อผิวหน้าโดนทำร้ายสมดุลอย่างหนักแล้ว ยากที่จะดีขึ้นมาเหมือนเดิม ต้องหมดเงินไปกับการรักษาหน้าโดยที่ไม่มีโอกาสรู้เลยว่า ผิวหน้าของเราจะกลับมาดีได้ดั่งเดิมหรือเปล่า ดังนั้นควรที่จะระวังในการเลือกใช้ด้วยค่ะ

เคยมีการพูดถึงผ้าม่านไปแล้ว 4 ประเภทได้แก่ ม่านจีบ ม่านพับ ม่านตาไก่ และม่านคอกระเช้ากันไปแล้วแต่ยังคงค้างอยู่อีก 4 อันซึ่งในวันนี้เราจะมาต่อกันให้จบครับ                ผ้าม่านอันดับต่อไปที่เราควรรู้จักก็คือม่านหลุยส์ ผ้าม่านชนิดนี้จะแสดงถึงความหรูหรา ความมีระดับของเจ้าของบ้าน โดยม่านหลุยส์มักจะทำมาจากผ้าเนื้อดี ลวดลายสวยงาม มีสีสันดูหรูหรา มีราคา แต่มีข้อเสียคือทำความสะอาดและเก็บรักษายากดังนั้นจึงควรติดตั้งอยู่ในห้องที่มีเครื่องปรับอากาศเป็นหลัก                ม่านปรับแสงเป็นม่านที่นิยมใช้กันตามสำนักงานและคอนโดมีเนียมที่ดูโมเดิร์น ทันสมัยเป็นหลัก จุดเด่นของม่านประเภทนี้คือดูแลรักษาง่าย ทำความสะอาดได้สะดวกไม่ยุ่งยากและสามารถใช้วัสดุหลายอย่างมาจัดทำได้ไม่ว่าจะเป็นผ้า พลาสติก อลูมิเนียมหรือไวนิล                ม่านม้วน ม่านชนิดนี้มีลักษณะตรงตัวคือเวลาไม่ใช้จะม้วนเก็บด้านบนส่วนเมื่อใช้งานใบม่านจะม้วนลู่ลงมาข้างล่างซึ่งข้อดีของม่านชนิดนี้คือสามารถป้องกันความร้อนและแสงสว่างได้เต็มที่อีกทั้งยังใช้เนื้อที่ในการติดตั้งไม่มากอีกด้วย                ส่วนม่านชนิดสุดท้ายเชื่อว่าหลายคนคงคุ้นหูเป็นอย่างดีเพราะเป็นม่านที่นิยมกันมากถึงมากที่สุดนั่นก็คือมู่ลี่นั่นเอง มู่ลี่เป็นม่านที่ให้ความรู้สึกอบอุ่น เป็นธรรมชาติผสมเข้ากับความหรูหรา วัสดุที่ใช้ทำมีทั้งเป็นไม้และอลูมิเนียม ทำความสะอาดได้ง่ายเหมาะกับออฟฟิศสำนักงานและคอนโดมีเนียมที่มีพื้นที่ไม่มาก มีความแข็งแรงและทำความสะอาดได้ง่าย